การติดตั้งถังลม (Air Receiver Tank) ควรติดหน้าหรือหลัง Air Dryer

เมื่อพูดถึงเรื่องการติดตั้ง Air Dryer ทุกคนทราบดีว่าการติดตั้ง Air Dryer ใช้ลดความชื้นภายในลมที่ปั๊มลมผลิตออกมาให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อจะได้ลมมีความแห้งในระดับหนึ่ง ก่อนนำไปใช้งาน ซึ่งทุกคนอาจสงสัยว่า แล้วการติดตั้ง Air Dryer ก่อนถังลม (Air Receiver) หรือติดตั้งหลังถังลม อันไหนจะดีกว่ากัน เราจะมาวิเคราะห์กัน

แบบที่1 ติดตั้ง Air Dryer ก่อนถังลม

การติดตั้งแบบนี้จะเป็นการติดตั้งเครื่องโดยเอา Air Dryer ไปอยู่ต่อจากปั๊มลมเลย แล้วค่อยนำลมที่ได้ส่งไปที่ถังลมต่อ ซึ่งวิธีนี้อาจจะไม่ได้ผิด แต่การทำงานของ Air Dryer จะทำงานค่อนข้างหนัก เพราะลมที่ส่งออกมาจากปั๊มลมเป็นลมที่ร้อนและ Air Dryer อาจไม่สามารถลดความชื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในช่วงบางเวลา เช่นหน้าฝนที่มีความชื้นในอากาศเยอะกว่าปกติ อย่างไรก็ตามการติดตั้งลักษณะนี้สามารถยอมรับได้หากการใช้ลม ไม่ได้มีความเจาะจงว่าลมที่นำไปใช้งานต้องมีความแห้งเป็นพิเศษ เช่น งานอุตสาหกรรม อาหาร ยา หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า

แบบที่2 ติดตั้ง Air Dryer หลังถังลม

การติดตั้งแบบนี้จะเป็นการติดตั้งเครื่องโดยเอา Air Dryer ไว้ที่หลังถังลม ระบบจะส่งลมจากปั๊มลมตรงไปที่ถังลม ซึ่งตัวถังจะทำหน้าที่เป็นตัวช่วย buffer ให้ลมนั้นมีการคลายความร้อนลงและช่วยดักน้ำบางส่วนไว้ ก่อนที่จะส่งลมผ่านเข้าสู่ Air Dryer ต่อไป ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ Air Dryer สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่า แต่ในแง่ลบเอง เมื่อน้ำที่สะสมในถังต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ในระยะยาวตัวถังจะเริ่มมีปัญหาสนิมสะสมจากภายใน ซึ่งปัญหาดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้โดยการทำ test ถังลมประจำปี

สรุป

การติดตั้ง Air Dryer ส่วนมากในเมืองไทยนิยมติดตั้งแบบที่ 2 มากกว่า นั้นคือติดตั้ง Air Dryer หลังถังลม เพราะการติดตั้งแบบนี้ Air Dryer จะไม่ทำงานหนักจนเกินไป สเถียรภาพของระบบลมนั้นสูงกว่า และระยะเวลาของถังที่จะเกิดสนิมจนไม่สามารถใช้งานต่อได้มักมีเวลายาวนานมาก จนเมื่อเปรียบเทียบแล้วผู้ใช้เครื่องหลาย ๆ ที่ มักมองว่าการเปลี่ยนถังใหม่ในระยะยาวมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า