บริษัท ซีเทีย จำกัด
เลขที่ 8 ซอย เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30 แยก 30 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
บริษัท ซีเทีย จำกัด
เลขที่ 8 ซอย เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30 แยก 30 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
บริษัท ซีเทีย จำกัด
เลขที่ 8 ซอย เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30 แยก 30 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
บริษัท ซีเทีย จำกัด
เลขที่ 8 ซอย เฉลิมพระเกียรติ ร.9 30 แยก 30 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250
Tel. 081-657-4443, 02-101-1944
ทำไมระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรม จำเป็นต้องมีถังลม
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2022
ระบบลมส่วนใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีถังลมอยู่ภายในระบบ เพื่อให้ลมที่นำไปใช้ในแต่ละส่วนมีแรงลมที่เสถียรคงที่ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของลมไม่ให้มีน้ำหลุดไปกับลมมากเกินไป โดยที่ถังลมนั้นจะเป็นตัวช่วยดักน้ำก่อนที่ลมจะถูกส่งไปใช้ในระบบ ทำให้อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่ใช้ลมในกระบวนการขับเคลื่อนมีการเสียหายน้อยลงอีกด้วย
เลือกถังลมที่ใช่สำหรับเรา
ประเภทของถังลมอาจแบ่งได้เป็นหลายประเภทแล้วแต่ชนิดของอุสาหกรรม เช่น หากเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอาหาร ผู้ใช้เครื่องควรใช้ถังลมที่ทำจากสแตนเลส (stainless) เพื่อป้องกันการเกิดสนิมภายในถังลมในระหว่างนำลมไปใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร หรืออุตสาหกรรมที่นำลมไปใช้กับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ลมในการขับเคลื่อนอาจจะใช้เป็นถังลมชนิดที่เป็นเหล็ก (SS400) ได้ โดยถังลมแต่ละแบบนั้นจะต้องดูแรงดัน (Pressure) ที่นำไปใช้ด้วยว่าอุตสาหกรรมนั้น ๆ ใช้แรงดันมากน้อยเพียงใด หากต้องใช้แรงดันที่สูง อาจควรต้องเพิ่มความหนาของถังลมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน
อุปกรณ์ของถังลมที่จำเป็นต้องมี
ถังลมในอุตสาหกรรมจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติมที่เป็นส่วนประกอบเพื่อให้ถังลมมีความปลอดภัยหรือป้องกันการเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่ใช้ลมมี ดังนี้
-
Pressure Gauge ทำหน้าที่ให้รู้ปริมาณแรงดันลมที่มีอยู่ในถัง
-
Safety Valve ทำหน้าที่ช่วยป้องกันการเกิดแรงดันลมเกินภายในถังลม
-
Auto Drain ทำหน้าที่ช่วยระบายน้ำภายในถังลมออกเมื่อถึงจุดที่กำหนดไว้
แล้วถังลมมีผลกระทบกับปั๊มลมหรือไม่
การเลือกขนาดของถังลมให้ถูกต้องก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากอีกอย่างหนึ่ง โดยการเลือกขนาดของถังลมจะต้องดูปริมาณการผลิตลมของปั๊มลม (Air Compressor)ในระบบให้มีความสอดคล้องกันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาลมตก และปกป้องชิ้นส่วน unloader ของปั๊มลม (Air Compressor) ร่วมด้วย เนื่องจากหากถังลมมีขนาดเล็กเกินไป ตัวเครื่องจักรจะมีการตัดต่อ load / unload ที่ตัว unloader ถี่เกินไปจนเสี่ยงทำให้อุปกรณ์มีความเสี่ยงที่จะเกิดการเสียหายก่อนกำหนด โดยปกติแล้วถังลมจะต้องมีความจุประมาณ 8 เท่า ของอากาศที่อัดได้ใน 1 วินาที และยังควรมีการเพิ่มค่าความปลอดภัยหรือการขยายการใช้ลมภายในอนาคตไปอีก 25% ด้วย (safety factor)